การพ่วงจูงเรือด้านข้าง (Towing alongside)
การพ่วงจูงเรือด้านข้างเป็นการพ่วงจูงเรือแบบหนึ่งที่ใช้การผูกเรือให้ติดกันระหว่างเรือ 2 ลำ คือเรือจูงหนึ่งลำ และเรือพ่วงอีกหนึ่งลำ เป็นวิธีการที่นิยมทำกันในกรณีที่เมื่อเรือจะเข้าเทียบท่า หรือออกจากท่า หรือเข้าผูกทุ่นผูกเรือ หรือพ่วงจูงเพื่อเดินทางในน่านน้ำที่มีการจราจรหนาแน่น เพราะจะไม่เกะกะกีดขวางการเดินเรือของเรือลำอื่น ๆ
วิธีการพ่วงจูงให้ทำการผูกเชือกหัวเรือ (1) เป็นเส้นแรก และให้ดึงหัวเรือของเรือพ่วงให้เข้ามาใกล้เรือจูง จนกระทั่งถึงกลางลำแล้วจึงทำการผูกเชือกท้าย (2) จากนั้นให้ทำการผูกเชือกไกหัว (3) และเชือกไกท้าย (4) และจะต้องใช้ลูกตะเพราอย่างน้อย 2 ลูก รองป้องกันเรือกระแทกกันตลอดเวลา
ถ้าจะใช้เชือกเส้นเดียวในการพ่วงจูงเรือด้านข้างนั้น เชือกที่จะทำการผูกพ่วงจูงจะต้องมีความยาวระหว่าง 5 – 10 เท่า ของความยาวเรือพ่วง หากเชือกสั้นก็อาจใช้เชือกสมอเรือมาผูกเพิ่มเติมเพราะมีความแข็งแรงและสามารถผูกให้ตึงได้มาก
ในการทำการพ่วงจูงนั้นจะต้องผูกเชือกให้แน่นหนาอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กราบเรือกระทบกระแทกกันจะเกิดความเสียหาย นอกจากนั้นการเคลื่อนที่ของเรือทั้งสองที่จะต้องมีการวางแผนให้รอบคอบโดยการวางแผนและเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา การพ่วงจูงเรือด้านข้างก็จะไม่สร้างปัญหาให้
ถ้าลักษณะอากาศไม่ค่อยจะดีมีลม คลื่น หรือกระแสน้ำ ให้ทำการผูกเชือกไกหัวและเชือกไกท้ายก่อน เพื่อที่จะบังคับให้เรือพ่วงไม่แกว่งและแล่นตรงไปข้างหน้าพร้อม ๆ กับเรือจูงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเชือกลากเรือนั้นไม่สามารถผูกกับพุกหัวเรือหรือที่ผูกเรือได้อย่างแน่นหนา ให้ลากเชือกมาผูกกับเก๋งเรือหรือกว้านเรือสมอเรือ นอกจากนั้นการสอดเชือกลอดผ่านช่องคล้องเชือก ให้ใช้รอกนำเชือกเพื่อป้องกันการครูดที่หัวเรือ หรืออาจจะเกิดอันตรายในขณะที่เลี้ยวเรือ กับลักษณะอากาศที่มีลมหวน จะทำให้เชือกลากครูดกันรูเชือกที่หัวเรือ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการใช้หมอนรองเชือกเพื่อไม่ให้เกิดการครูด นอกจากนั้นสามารถใช้โซ่สั้น ๆ สอดลอดตาคล้องเชือกมาผูกกับพุกแล้วจึงต่อกับเชือกลาก
ในการพ่วงจูงเรือนั้นจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างเรือพ่วงกับเรือจูง โดยการใช้วิทยุสื่อสาร ถ้าไม่มีวิทยุสื่อสารก็จะต้องใช้ภาษามือ หรือสัญญาณไฟฉาย สำหรับสื่อคำบอกสั่งคำ เช่น การเพิ่มความเร็ว การลดความเร็ว การหยุดเรือ หรือการปรับแต่งเชือกผูกเรือ เพื่อที่คนขับเรือจูงจะต้องทราบสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นการสื่อสารจะช่วยให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
Written by R - Yong
การพ่วงจูงเรือด้านข้างเป็นการพ่วงจูงเรือแบบหนึ่งที่ใช้การผูกเรือให้ติดกันระหว่างเรือ 2 ลำ คือเรือจูงหนึ่งลำ และเรือพ่วงอีกหนึ่งลำ เป็นวิธีการที่นิยมทำกันในกรณีที่เมื่อเรือจะเข้าเทียบท่า หรือออกจากท่า หรือเข้าผูกทุ่นผูกเรือ หรือพ่วงจูงเพื่อเดินทางในน่านน้ำที่มีการจราจรหนาแน่น เพราะจะไม่เกะกะกีดขวางการเดินเรือของเรือลำอื่น ๆ
วิธีการพ่วงจูงให้ทำการผูกเชือกหัวเรือ (1) เป็นเส้นแรก และให้ดึงหัวเรือของเรือพ่วงให้เข้ามาใกล้เรือจูง จนกระทั่งถึงกลางลำแล้วจึงทำการผูกเชือกท้าย (2) จากนั้นให้ทำการผูกเชือกไกหัว (3) และเชือกไกท้าย (4) และจะต้องใช้ลูกตะเพราอย่างน้อย 2 ลูก รองป้องกันเรือกระแทกกันตลอดเวลา
ถ้าจะใช้เชือกเส้นเดียวในการพ่วงจูงเรือด้านข้างนั้น เชือกที่จะทำการผูกพ่วงจูงจะต้องมีความยาวระหว่าง 5 – 10 เท่า ของความยาวเรือพ่วง หากเชือกสั้นก็อาจใช้เชือกสมอเรือมาผูกเพิ่มเติมเพราะมีความแข็งแรงและสามารถผูกให้ตึงได้มาก
ในการทำการพ่วงจูงนั้นจะต้องผูกเชือกให้แน่นหนาอย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้กราบเรือกระทบกระแทกกันจะเกิดความเสียหาย นอกจากนั้นการเคลื่อนที่ของเรือทั้งสองที่จะต้องมีการวางแผนให้รอบคอบโดยการวางแผนและเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา การพ่วงจูงเรือด้านข้างก็จะไม่สร้างปัญหาให้
ถ้าลักษณะอากาศไม่ค่อยจะดีมีลม คลื่น หรือกระแสน้ำ ให้ทำการผูกเชือกไกหัวและเชือกไกท้ายก่อน เพื่อที่จะบังคับให้เรือพ่วงไม่แกว่งและแล่นตรงไปข้างหน้าพร้อม ๆ กับเรือจูงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเชือกลากเรือนั้นไม่สามารถผูกกับพุกหัวเรือหรือที่ผูกเรือได้อย่างแน่นหนา ให้ลากเชือกมาผูกกับเก๋งเรือหรือกว้านเรือสมอเรือ นอกจากนั้นการสอดเชือกลอดผ่านช่องคล้องเชือก ให้ใช้รอกนำเชือกเพื่อป้องกันการครูดที่หัวเรือ หรืออาจจะเกิดอันตรายในขณะที่เลี้ยวเรือ กับลักษณะอากาศที่มีลมหวน จะทำให้เชือกลากครูดกันรูเชือกที่หัวเรือ ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการใช้หมอนรองเชือกเพื่อไม่ให้เกิดการครูด นอกจากนั้นสามารถใช้โซ่สั้น ๆ สอดลอดตาคล้องเชือกมาผูกกับพุกแล้วจึงต่อกับเชือกลาก
ในการพ่วงจูงเรือนั้นจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกันระหว่างเรือพ่วงกับเรือจูง โดยการใช้วิทยุสื่อสาร ถ้าไม่มีวิทยุสื่อสารก็จะต้องใช้ภาษามือ หรือสัญญาณไฟฉาย สำหรับสื่อคำบอกสั่งคำ เช่น การเพิ่มความเร็ว การลดความเร็ว การหยุดเรือ หรือการปรับแต่งเชือกผูกเรือ เพื่อที่คนขับเรือจูงจะต้องทราบสถานการณ์ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากเกิดความผิดพลาดขึ้นการสื่อสารจะช่วยให้สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันท่วงที
Written by R - Yong