เรือพลังแสงอาทิตย์เพื่อการท่องเที่ยว (1)
การใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ มีมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้แก่ การใช้ในการอุปโภค บริโภค การใช้ในการอุตสาหกรรม การใช้ในการอุตสาหกรรม การใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ใช้เป็นเส้นทาง คมนาคมขนส่ง ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของปลาและสิ่งมีชีวิตในน้ำต่างๆ ซึ่งมนุษย์ใช้เป็นอาหาร และการใช้ประโยชน์ จากน้ำเพื่อการนันทนาการ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
การคมนาคมทางเรือเป็นแหล่งมลพิษทางน้ำที่สำคัญแหล่งหนึ่งแต่มักจะถูกมองข้ามไป สารมลพิษจากแหล่งนี้ เช่น น้ำมันที่ใช้กับเครื่องจักรกลของเรือ เรือขนส่งน้ำมันรั่ว หรือเรือขนส่งน้ำมันจมและที่เกิดจากขบวนการคมนาคมขนส่ง การบริการ การก่อสร้าง การรื้อถอน การพาณิชย์ การล้างถนน อาคาร รถยนต์ และน้ำเสียจากกิจกรรมประมง เป็นต้น
การท่องเที่ยวทางเรือในปัจจุบันได้สร้างมลพิษทางน้ำให้แหล่งน้ำเป็นอย่างมาก เรือที่ใช้เครื่องยนต์จะปล่อยควันที่บางครั้งพัดย้อนลมมาให้เราดมเล่น เสียงหึ่งๆ ของเรือขนาดใหญ่หรือเสียงจี๊ดแหลมของเครื่องเรือความเร็วสูงเกิดมลพิษทางเสียง
เรือที่ใช้ไฟฟ้าคือทางเลือกในการหลีกเลี่ยงการสร้างมลพิษทางน้ำ และสามารถตอบสนองความรื่นรมย์ของการล่องเรือแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ แต่คำถามที่ตามมาคือจะเอาไฟฟ้าจะมาจากที่ใด ต้องวิ่งกลับเข้าฝั่งเพื่อเติมไฟหรือไม่
พลังแสงอาทิตย์เป็นคำตอบที่ดีของแหล่งพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะสำหรับเรือที่ใช้บริเวณชายฝั่งทะเลที่มีแสงแดดแรงสม่ำเสมอ แผงเซลล์แสงอาทิตย์จะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นประจุไฟฟ้าเก็บเข้าแบตเตอรี่ การมีแผงเซลแสงอาทิตย์ติดไปกับเรือย่อมเหมือนเรือมีแหล่งพลังงานของตนเองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเหมือนการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งไม่ต้องวิ่งกลับไปเติมน้ำมันที่บนฝั่ง ทำให้เรือพลังแสงอาทิตย์สามารถที่จะแล่นล่องไปได้ทั่วทะเลตราบใดที่ยังมีแสงอาทิตย์ส่องลงมาบนผิวโลกของเรา
ประมาณปี พ.ศ. 2552 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีแนวคิด 2 ประการคือการใช้เรือเรือพลังงานสะอาดในการศึกษาวิจัยเก็บข้อมูลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเลโดยเฉพาะแนวปะการัง ประการที่สองคือ เป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เพราะในเมื่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ การใช้เรือพลังงานสะอาด ลดมลพิษและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้น้ำมัน ที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน
คณะผู้วิจัยได้เริ่มศึกษาและเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจะสร้างเรือต้นแบบพลังแสงอาทิตย์ต้นแบบลำแรกของไทยที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง มาจนกระทั่งปี พ.ศ.2555 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ให้ความสนใจในแนวคิดการสร้างเรือพลังแสงอาทิตย์นี้ จึงได้สนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อให้คณะวิจัยได้จัดทำ “การศึกษาการใช้เรือพลังแสงอาทิตย์เพื่อการท่องเที่ยวในแนวปะการัง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อสำหรับเตรียมการสร้างเรือพลังแสงอาทิตย์ของไทย จึงเห็นว่าควรจะเริ่มจากเรือที่มีการใช้งานตรงกับลักษณะจุดเด่นของเรือแสงอาทิตย์ คือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการให้ความรื่นรมย์ในการใช้เรือที่เงียบ และเป้าหมายพื้นที่ที่น่าสนใจของเราคือบริเวณเกาะหมากในจังหวัดตราด เพราะเกาะหมากได้ประกาศแนวทางในการพัฒนาแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการบนเกาะเน้นการใช้พลังงานแบบจำกัดในกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบต่างๆ
การศึกษานี้คณะผู้วิจัยประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาคือ ด้านการต่อเรือจากวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านพลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และการศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ด้านสังคม จากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต รวมถึงนักวิชาการเอกชนที่มีความชำนาญในด้านมอเตอร์ที่ให้กำลังแก่เรือและการควบคุมการจ่ายพลังงาน ที่ปรึกษาจากนิตยสาร aBOAT มาเป็นที่ปรึกษา และผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทางทะเลบนเกาะหมาก ได้ผนึกกำลังกันเพื่อใช้ความรู้ในแต่ละด้านที่ตนชำนาญประสานงานกัน
ในการเข้าพื้นที่เกาะหมากเพื่อเก็บข้อมูลเพื่อจะสร้างเรือต้นแบบลำแรกนั้นประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย เราได้พบกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวบนเกาะหมาก ต่างก็ให้ความสนใจและกะตือลือล้นที่จะได้ใช้เรือพลังแสงอาทิตย์ในการท่องเที่ยว ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนบนเกาะหมากมีแนวคิดด้านการใช้พลังงานสะอาดอยู่แล้ว บนเกาะมีการใช้แผงโซลาเซลล์กันอย่างแพร่หลาย และบางรายยังมีการใช้แผงโซลาเซลล์ เพื่อชาร์ตไฟให้กับแบตเตอรี่ของเรือแทนการใช้ไดชาร์ตซึ่งมักจะเสียและต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมประจำ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เปรียบมากขึ้นคือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้บนเกาะมีราคาแพงกว่าบนฝั่งมาก เนื่องจากต้องเสียค่าขนส่งจากฝั่งไปที่เกาะด้วย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ได้ความร่วมมือและการให้ข้อมูลที่เด่นชัดของแบบเรือแสงพลังอาทิตย์ที่ผู้ประกอบการต้องการ และดูเหมือนว่าขณะนี้คณะผู้วิจัยได้ข้อมูลเบื้องต้นที่เพียงพอในการออกแบบเรือพลังแสงอาทิตย์แล้ว
จากข้อมูลที่เราเข้าไปในพื้นที่เกาะหมากทำให้เราได้แบบเรือที่ตั้งใจออกมา 2 ขนาด คือขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และขนาดใหญ่ (กว่า) สำหรับหน่วยงานหรือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในพื้นที่
เรือพลังแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เกาะหมากและเกาะช้างซึ่งต้องการใช้เรือพลังแสงอาทิตย์ในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มเล็กๆ ต้องการความเป็นส่วนตัว เดินทางไปเกาะใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ เรือขนาดเล็กยังมีต้นทุนไม่สูงมาก ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่ามีการลงทุนน้อย มีความคุ้มที่จะเสี่ยงต่อการลงทุน ตัวเรือมีขนาดยาว 7 เมตร กว้าง 3.5 เมตร เพื่อให้มีพื้นที่มากพอจะติดตั้งแผงเซลล์สุริยะขนาด 9 ตารางเมตรเพื่อผลิตไฟฟ้าได้พอเพียง โดยที่เรือยังมีความมั่นคงปลอดภัยในการวิ่งฝ่าคลื่นบริเวณรอบเกาะได้ ส่วนของแบตเตอร์รี่จำนวน 4 ลูก ถูกเก็บไว้ใต้ท้องเรือ ระบบไฟฟ้าทั้งหมดมีเพียงพอให้ใช้เดินทางได้ทั้งวันเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หรือ 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ซึ่งเพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวที่มีลักษณะไปๆ หยุดๆ สมรรถนะและความปลอดภัยของเรือลำนี้สามารถวิ่งฝ่าคลื่นที่พบรอบๆ เกาะหมากและเกาะช้างในฤดูกาลท่องเที่ยวที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร ได้ แต่หากคลื่นมีความสูงมากกว่านั้นเรือก็ยังสามารถวิ่งฝ่าคลื่นหรือมุดใต้คลื่นได้โดยที่ไม่จม เนื่องจากตัวเรือถูกออกแบบมาให้เป็นแบบปิด ไม่มีช่องให้น้ำเข้าไปภายในเรือได้ เรือจึงมีความปลอดภัยต่อการนักท่องเที่ยวมาก
การใช้สอย เรือพลังแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก ถึงแม้จะเป็นขนาดเล็ก แต่เนื่องจากเป็นเรือแบบคาตามาราน จึงมีพื้นที่ใช้สอยมาก ดาดฟ้ามีพื้นที่ถึง 3X7 ตารางเมตร เพียงพอให้ผู้ใช้ซึ่งถูกออกแบบไว้ให้รองรับได้จำนวน 6 คน (รวมลูกเรือ) แต่ละคนมีพื้นที่ส่วนตัวที่จะนั่งๆ นอนๆ ชมวิวหรือพักผ่อนหลังการเล่นน้ำได้อย่างสบาย สิ่งที่เราออกแบบให้พิเศษ เนื่องจากเรือนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการสูงมากกว่าคนไทย ด้านหลังจึงถูกจัดให้เป็นพื้นที่โล่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นอนอาบแดดได้อย่างสบายใจ หรือตอนกลางคืนอาจมีใครใช้นอนเล่นกลางทะเล ชี้ชวนคนที่ไปด้วยนอนนับดาวหรือชมความงามของทางช้างเผือกกลางทะเลก็ยังได้
จากการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเรือที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อนเรือเพื่อการพานักท่องเที่ยวไปชมปะการัง และประเมินศักยภาพของเรือว่าจะเพียงพอจนให้ได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ใช้เรือ นักท่องเที่ยว หน่วยงานที่ดูแลนักท่องเที่ยวและบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวบริเวณหมู่เกาะหมาก เกาะรัง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง) จังหวัดตราด หรือไม่ นั้น
เรือพลังแสงอาทิตย์นี้ในอนาคตจะมีการสร้างเป็นที่แพร่หลายในต่างประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่นั้น ผู้ศึกษาได้ศึกษาความต้องการของผู้เกี่ยวข้องในลักษณะและคุณสมบัติของเรือ แล้วจึงออกแบบเรือพลังแสงอาทิตย์ให้มีความสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ผลคือได้เรือแบบคาตามาราน 2 ขนาดคือ ขนาดยาว 7 เมตร สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และ 14 เมตร สำหรับหน่วยงานที่ต้องดูแลพื้นที่ เรือทั้งสองสามารถตอบสนองความต้องการในกรณีที่ไม่ต้องการความเร็วมากนัก เรือพลังแสงอาทิตย์สามารถสร้างรายได้มีความคุ้มค่าด้านการลงทุนและผู้เกี่ยวข้องมีความต้องการมีเรือเพื่อทดสอบการใช้งานจริง
Written by R-Yong
การใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ มีมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อมได้แก่ การใช้ในการอุปโภค บริโภค การใช้ในการอุตสาหกรรม การใช้ในการอุตสาหกรรม การใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้า ใช้เป็นเส้นทาง คมนาคมขนส่ง ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของปลาและสิ่งมีชีวิตในน้ำต่างๆ ซึ่งมนุษย์ใช้เป็นอาหาร และการใช้ประโยชน์ จากน้ำเพื่อการนันทนาการ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
การคมนาคมทางเรือเป็นแหล่งมลพิษทางน้ำที่สำคัญแหล่งหนึ่งแต่มักจะถูกมองข้ามไป สารมลพิษจากแหล่งนี้ เช่น น้ำมันที่ใช้กับเครื่องจักรกลของเรือ เรือขนส่งน้ำมันรั่ว หรือเรือขนส่งน้ำมันจมและที่เกิดจากขบวนการคมนาคมขนส่ง การบริการ การก่อสร้าง การรื้อถอน การพาณิชย์ การล้างถนน อาคาร รถยนต์ และน้ำเสียจากกิจกรรมประมง เป็นต้น
การท่องเที่ยวทางเรือในปัจจุบันได้สร้างมลพิษทางน้ำให้แหล่งน้ำเป็นอย่างมาก เรือที่ใช้เครื่องยนต์จะปล่อยควันที่บางครั้งพัดย้อนลมมาให้เราดมเล่น เสียงหึ่งๆ ของเรือขนาดใหญ่หรือเสียงจี๊ดแหลมของเครื่องเรือความเร็วสูงเกิดมลพิษทางเสียง
เรือที่ใช้ไฟฟ้าคือทางเลือกในการหลีกเลี่ยงการสร้างมลพิษทางน้ำ และสามารถตอบสนองความรื่นรมย์ของการล่องเรือแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ แต่คำถามที่ตามมาคือจะเอาไฟฟ้าจะมาจากที่ใด ต้องวิ่งกลับเข้าฝั่งเพื่อเติมไฟหรือไม่
พลังแสงอาทิตย์เป็นคำตอบที่ดีของแหล่งพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะสำหรับเรือที่ใช้บริเวณชายฝั่งทะเลที่มีแสงแดดแรงสม่ำเสมอ แผงเซลล์แสงอาทิตย์จะเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นประจุไฟฟ้าเก็บเข้าแบตเตอรี่ การมีแผงเซลแสงอาทิตย์ติดไปกับเรือย่อมเหมือนเรือมีแหล่งพลังงานของตนเองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเหมือนการเติมน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งไม่ต้องวิ่งกลับไปเติมน้ำมันที่บนฝั่ง ทำให้เรือพลังแสงอาทิตย์สามารถที่จะแล่นล่องไปได้ทั่วทะเลตราบใดที่ยังมีแสงอาทิตย์ส่องลงมาบนผิวโลกของเรา
ประมาณปี พ.ศ. 2552 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีแนวคิด 2 ประการคือการใช้เรือเรือพลังงานสะอาดในการศึกษาวิจัยเก็บข้อมูลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทางทะเลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมทางทะเลโดยเฉพาะแนวปะการัง ประการที่สองคือ เป็นตัวอย่างที่ดีในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ เพราะในเมื่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ การใช้เรือพลังงานสะอาด ลดมลพิษและการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้น้ำมัน ที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อน
คณะผู้วิจัยได้เริ่มศึกษาและเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจะสร้างเรือต้นแบบพลังแสงอาทิตย์ต้นแบบลำแรกของไทยที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างจริงจัง มาจนกระทั่งปี พ.ศ.2555 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ได้ให้ความสนใจในแนวคิดการสร้างเรือพลังแสงอาทิตย์นี้ จึงได้สนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อให้คณะวิจัยได้จัดทำ “การศึกษาการใช้เรือพลังแสงอาทิตย์เพื่อการท่องเที่ยวในแนวปะการัง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อสำหรับเตรียมการสร้างเรือพลังแสงอาทิตย์ของไทย จึงเห็นว่าควรจะเริ่มจากเรือที่มีการใช้งานตรงกับลักษณะจุดเด่นของเรือแสงอาทิตย์ คือการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการให้ความรื่นรมย์ในการใช้เรือที่เงียบ และเป้าหมายพื้นที่ที่น่าสนใจของเราคือบริเวณเกาะหมากในจังหวัดตราด เพราะเกาะหมากได้ประกาศแนวทางในการพัฒนาแบบการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ผู้ประกอบการบนเกาะเน้นการใช้พลังงานแบบจำกัดในกิจกรรมการท่องเที่ยวแบบต่างๆ
การศึกษานี้คณะผู้วิจัยประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขาคือ ด้านการต่อเรือจากวิทยาลัยพาณิชยนาวีนานาชาติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้านพลังงานจากแผงเซลล์แสงอาทิตย์และการศึกษาข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ด้านสังคม จากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต รวมถึงนักวิชาการเอกชนที่มีความชำนาญในด้านมอเตอร์ที่ให้กำลังแก่เรือและการควบคุมการจ่ายพลังงาน ที่ปรึกษาจากนิตยสาร aBOAT มาเป็นที่ปรึกษา และผู้ประกอบการการท่องเที่ยวทางทะเลบนเกาะหมาก ได้ผนึกกำลังกันเพื่อใช้ความรู้ในแต่ละด้านที่ตนชำนาญประสานงานกัน
ในการเข้าพื้นที่เกาะหมากเพื่อเก็บข้อมูลเพื่อจะสร้างเรือต้นแบบลำแรกนั้นประสบผลสำเร็จเกินความคาดหมาย เราได้พบกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวบนเกาะหมาก ต่างก็ให้ความสนใจและกะตือลือล้นที่จะได้ใช้เรือพลังแสงอาทิตย์ในการท่องเที่ยว ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนบนเกาะหมากมีแนวคิดด้านการใช้พลังงานสะอาดอยู่แล้ว บนเกาะมีการใช้แผงโซลาเซลล์กันอย่างแพร่หลาย และบางรายยังมีการใช้แผงโซลาเซลล์ เพื่อชาร์ตไฟให้กับแบตเตอรี่ของเรือแทนการใช้ไดชาร์ตซึ่งมักจะเสียและต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมประจำ อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ได้เปรียบมากขึ้นคือราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้บนเกาะมีราคาแพงกว่าบนฝั่งมาก เนื่องจากต้องเสียค่าขนส่งจากฝั่งไปที่เกาะด้วย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ได้ความร่วมมือและการให้ข้อมูลที่เด่นชัดของแบบเรือแสงพลังอาทิตย์ที่ผู้ประกอบการต้องการ และดูเหมือนว่าขณะนี้คณะผู้วิจัยได้ข้อมูลเบื้องต้นที่เพียงพอในการออกแบบเรือพลังแสงอาทิตย์แล้ว
จากข้อมูลที่เราเข้าไปในพื้นที่เกาะหมากทำให้เราได้แบบเรือที่ตั้งใจออกมา 2 ขนาด คือขนาดเล็กสำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และขนาดใหญ่ (กว่า) สำหรับหน่วยงานหรือผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในพื้นที่
เรือพลังแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เกาะหมากและเกาะช้างซึ่งต้องการใช้เรือพลังแสงอาทิตย์ในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มเล็กๆ ต้องการความเป็นส่วนตัว เดินทางไปเกาะใกล้ๆ แบบไปเช้าเย็นกลับ เรือขนาดเล็กยังมีต้นทุนไม่สูงมาก ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่ามีการลงทุนน้อย มีความคุ้มที่จะเสี่ยงต่อการลงทุน ตัวเรือมีขนาดยาว 7 เมตร กว้าง 3.5 เมตร เพื่อให้มีพื้นที่มากพอจะติดตั้งแผงเซลล์สุริยะขนาด 9 ตารางเมตรเพื่อผลิตไฟฟ้าได้พอเพียง โดยที่เรือยังมีความมั่นคงปลอดภัยในการวิ่งฝ่าคลื่นบริเวณรอบเกาะได้ ส่วนของแบตเตอร์รี่จำนวน 4 ลูก ถูกเก็บไว้ใต้ท้องเรือ ระบบไฟฟ้าทั้งหมดมีเพียงพอให้ใช้เดินทางได้ทั้งวันเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร หรือ 3 ชั่วโมงต่อเนื่อง ซึ่งเพียงพอสำหรับการท่องเที่ยวที่มีลักษณะไปๆ หยุดๆ สมรรถนะและความปลอดภัยของเรือลำนี้สามารถวิ่งฝ่าคลื่นที่พบรอบๆ เกาะหมากและเกาะช้างในฤดูกาลท่องเที่ยวที่มีความสูงประมาณ 1 เมตร ได้ แต่หากคลื่นมีความสูงมากกว่านั้นเรือก็ยังสามารถวิ่งฝ่าคลื่นหรือมุดใต้คลื่นได้โดยที่ไม่จม เนื่องจากตัวเรือถูกออกแบบมาให้เป็นแบบปิด ไม่มีช่องให้น้ำเข้าไปภายในเรือได้ เรือจึงมีความปลอดภัยต่อการนักท่องเที่ยวมาก
การใช้สอย เรือพลังแสงอาทิตย์ขนาดเล็ก ถึงแม้จะเป็นขนาดเล็ก แต่เนื่องจากเป็นเรือแบบคาตามาราน จึงมีพื้นที่ใช้สอยมาก ดาดฟ้ามีพื้นที่ถึง 3X7 ตารางเมตร เพียงพอให้ผู้ใช้ซึ่งถูกออกแบบไว้ให้รองรับได้จำนวน 6 คน (รวมลูกเรือ) แต่ละคนมีพื้นที่ส่วนตัวที่จะนั่งๆ นอนๆ ชมวิวหรือพักผ่อนหลังการเล่นน้ำได้อย่างสบาย สิ่งที่เราออกแบบให้พิเศษ เนื่องจากเรือนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีความต้องการสูงมากกว่าคนไทย ด้านหลังจึงถูกจัดให้เป็นพื้นที่โล่ง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นอนอาบแดดได้อย่างสบายใจ หรือตอนกลางคืนอาจมีใครใช้นอนเล่นกลางทะเล ชี้ชวนคนที่ไปด้วยนอนนับดาวหรือชมความงามของทางช้างเผือกกลางทะเลก็ยังได้
จากการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเรือที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียวในการขับเคลื่อนเรือเพื่อการพานักท่องเที่ยวไปชมปะการัง และประเมินศักยภาพของเรือว่าจะเพียงพอจนให้ได้รับการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้องประกอบด้วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ใช้เรือ นักท่องเที่ยว หน่วยงานที่ดูแลนักท่องเที่ยวและบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยวบริเวณหมู่เกาะหมาก เกาะรัง (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง) จังหวัดตราด หรือไม่ นั้น
เรือพลังแสงอาทิตย์นี้ในอนาคตจะมีการสร้างเป็นที่แพร่หลายในต่างประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหรือไม่นั้น ผู้ศึกษาได้ศึกษาความต้องการของผู้เกี่ยวข้องในลักษณะและคุณสมบัติของเรือ แล้วจึงออกแบบเรือพลังแสงอาทิตย์ให้มีความสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เกี่ยวข้องให้มากที่สุด ผลคือได้เรือแบบคาตามาราน 2 ขนาดคือ ขนาดยาว 7 เมตร สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว และ 14 เมตร สำหรับหน่วยงานที่ต้องดูแลพื้นที่ เรือทั้งสองสามารถตอบสนองความต้องการในกรณีที่ไม่ต้องการความเร็วมากนัก เรือพลังแสงอาทิตย์สามารถสร้างรายได้มีความคุ้มค่าด้านการลงทุนและผู้เกี่ยวข้องมีความต้องการมีเรือเพื่อทดสอบการใช้งานจริง
Written by R-Yong