เครื่องบินทะเล (เรือบินทะเล)

Post oleh : iwrite usee | Rilis : พฤษภาคม 26, 2560 | Series :
เครื่องบินทะเล แรงบันดาลใจจากแนวพระราชดำริในการพึ่งพาตนเอง

“...การพยายามศึกษาวิทยาการและเทคโนโลยีอันก้าวหน้าทุกสาขาจากทั่วโลก แล้วเลือกสรรส่วนที่สำคัญเป็นประโยชน์ นำมาปรับปรุงใช้ให้พอดีพอเหมาะกับสภาพและฐานะของประเทศเรา เพื่อช่วยให้ประเทศของเราสามารถนำเทคโนโลยีอันทันสมัยมาใช้พัฒนางานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่สิ้นเปลือง...”


พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ตอนหนึ่ง) เนื่องในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเปิดงานพระจอมเกล้าลาดกระบังนิทรรศน์ 26 ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า วิทยาเขตเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง วันที่ 16 มิถุนายน 2526

“ทะเลนั้นเป็น เหมือนถิ่นของเรา จะขอเฝ้าตราบจนชีวิตเราสิ้น ยามคลื่นซัดกระเซ็น เช้าเย็นสำเนียงเคยชิน เลือดไหลริน เพื่อคงเกียรติของนาวี............” ท่วงทำนองเบาๆ ของเสียงเพลงวอลท์นาวีที่ดังออกจากครอบหูฟังอันใหญ่ที่ผมเสียบต่อจาก MP3 ในขณะที่เราอยู่บนความสูง 3,000 ฟุต หรือ 3 กิโลเมตร โดยประมาณ ทิ้งความแปลกใจไว้ด้านหลังให้กับเหล่าลูกประดู่บนเรือรบ ที่จู่ ๆ ก็มีเครื่องบินไปวิ่งแล่นในทะเลอย่างกับเรือให้ได้ชม

ผมมองออกนอกหน้าต่างเครื่องบินขนาดสองที่นั่ง เบื้องล่างตรงหน้าคือผืนท้องทะเลสีครามที่มีแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเย็นสะท้อนลงบนผิวน้ำทะเลเป็นประกายระยับ อีกไม่กี่นาทีภารกิจทดลองบินครั้งนี้จะเสร็จสิ้นไป พร้อมกับพระอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า ผมเหลือบเห็นแววตาของพี่เล็กที่เป็นนักบินฉายแววแห่งความสุขและความภาคภูมิใจต่อความสำเร็จ ซึ่งแววตาแบบนี้เหมือนผมเคยเห็นที่ไหนจากใครสักคนมาก่อนหน้านี้

ในห้องพักรับรองของ สถาบันวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (สวพ.ทร.) ผมนั่ง สนทนาอยู่กับ “พลเรือโท สมหมาย ปราการสมุทร” อดีตเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ผู้เริ่มต้นโครงการวิจัย “เครื่องบินทะเล” สอบถามท่านถึงความเป็นมาของเครื่องบินลำหนึ่งที่ผมเห็นในยูทูป เว็บไซด์ยอดนิยมของคนชอบดูวีดีโอ

“โครงการนี้เริ่มมาจากความคิดที่ว่า ผมเคยเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ตั้งแต่สมัยที่เป็นผู้การเรือหลวงเจ้าพระยา ตอนนั้นท่านก็จะพูดจะสอนในสิ่งที่ดีๆ ให้เราตลอด ก็คิดว่า ถ้าเป็นไปได้ ในชีวิตนี้ถ้าจะได้สร้างอะไรก็อยากจะทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน ให้ชัดเจนให้ในหลวงซักอย่าง”
ครูสมหมายเริ่มต้นเล่าที่มาของโครงการให้ผมฟังด้วยประกายตาแห่งความฝัน

“พอทำเครื่องบินขึ้นมาได้ ก็นึกนะว่าเนี่ยเรามีโอกาสแล้ว โอกาสนี้จะถวายในหลวงให้ได้ ซึ่งก็ต้องขอบคุณ กองทัพเรือ สวพ.ทร. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)และกระทรวงกลาโหม ที่ให้การสนับสนุน โครงการจนสำเร็จลุล่วงมาได้”

บรื้น..บรื้น..บรื้นๆๆๆๆๆๆๆ เสียงใบพัดเครื่องบินเริ่มหมุนทำความเร็วขึ้นตามลำดับ พี่เล็กเริ่มบังคับเจ้า NAX 03 (Naval Aircraft Experimental 03) ค่อย ๆ วิ่งออกจากโรงจอดของฝูงบิน 101 กองการบินทหารเรือ โดยมีผมนั่งอยู่ข้าง ๆ เข้าสู่รันเวย์ หลังจากตั้งลำพร้อมบินเครื่องก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ไม่นานนักเครื่องบินลำนี้ก็พาเราลอยละล่องอยู่บนฟากฟ้า ประดุจนกโผบินอยู่บนเวหา

ผมนึกย้อนไประหว่างเตรียมเครื่องในโรงจอดก่อนที่จะขึ้นบิน พี่เล็กพูดให้ผมฟังว่า เบื้องหลังความสำเร็จของเครื่องบินทะเลเป็นเพราะมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วย โดยเฉพาะกองทัพอากาศที่ให้ใช้อุโมงค์ลมทดลองเครื่องบินต้นแบบจำลอง

“แล้วในกองทัพเรือล่ะครับพี่”

ผมถามขึ้นในขณะที่พี่เล็กกำลังตรวจเช็คฐานพับล้อ “ด้วยงบประมาณที่ใช้ในโครงการวิจัยครั้งนี้มีน้อย และด้วยที่พี่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกองบริหารงบประมาณ ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือหลายท่านจึงพูดกับพี่เสมอ ๆ ว่าการจัดทำงบประมาณต่าง ๆ ให้คำนึงถึงความสามารถในการพึ่งพาตนเองของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้งบประมาณที่ได้รับไปนั้น นำไปใช้ประโยชน์ได้สูงสุด เครื่องบินทะเลลำนี้เราจึงใช้งบประมาณในการสร้างแค่ 5 ล้านบาท”

พี่เล็กเล่าไปพร้อม ๆ กับตรวจเช็คความพร้อมของเครื่องบินไปโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา

ไม่นานนัก เราทั้งคู่ก็บินอยู่เหนือเขตท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ พี่เล็กลดเพดานบินลงต่ำ ตามระดับจนท้องเครื่องบินใกล้ติดผิวน้ำ ผมนั่งเครื่องบินมาก็หลายหน คอยลุ้นระหว่างเครื่องขึ้นและลงมาก็หลายครั้ง แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่ไม่ใช่เพียงแค่นั่งอยู่คู่นักบิน เสมือนตัวเองเป็นนักบินผู้ช่วยยังไงยังงั้น แต่ที่สำคัญนี่เป็นครั้งแรกที่เครื่องที่ผมนั่งอยู่ในขณะนี้ กำลังจะใช้ผืนท้องทะเลเป็นลานจอดท่ามกลางหมู่เรือรบของราชนาวีไทยนับสิบลำ โอ้ว...พระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ในสากลโลก... ผมคิดไม่ได้มากไปกว่านั้น ก็รู้สึกได้ว่าตัวเครื่องบินยวบจมลงไปทะเล....แต่ก็ยังแล่นต่อไป บนผิวน้ำเรื่อยๆ

คงไม่ผิดที่ผมจะใช้คำว่า “แล่น” เพราะเครื่องบินลำนี้กำลังพาผมแล่นอยู่ในทะเล ไม่ต่าง จากเรือทั่ว ๆ ไป ผมมองเห็นทหารเรือที่ประจำการอยู่บนเรือรบหลายลำ ต่างออกมายืนดูตามท้ายเรือ จะให้กำลังใจหรือแปลกใจที่ไม่เคยเห็นเครื่องบินลงน้ำมาก่อน ผมไม่อาจคาดเดา สักครู่พี่เล็กก็เร่งความเร็วเครื่องเพิ่มขึ้น และในระยะไม่เกินสองร้อยเมตร ผมก็รู้สึกได้ว่าตัวเครื่องเริ่มลอยขึ้นเหนือผิวน้ำ ชั่วเวลาไม่นานเครื่องก็พาเราทะยานกลับขึ้นอยู่บนท้องฟ้าอีกครั้ง พี่เล็กพาผมบินตัดผ่านถนนสุขุมวิท บ่ายเครื่องมุ่งหน้าไปทางจังหวัดระยอง โดยมีจุดหมายปลายทางที่อ่างเก็บน้ำคลองไผ่ อ.บ้านฉาง จ.ชลบุรี

การผลิตเครื่องบินทะเลครั้งนี้คงไม่ได้มีอะไรน่าสนใจหรือน่าติดตามมากนัก หากแต่ไม่ใช่ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่คนไทยคณะหนึ่งที่ยึดถือ “แนวพระราชดำริในการพึ่งพาตนเอง” แล้วน้อมนำมาปฏิบัติ โดยใช้มันสมองและสองมือ ร่วมแรง ร่วมใจ สมัครสมานสามัคคี ร่วมกันคิดวิจัยและพัฒนาจนสามารถผลิต “เครื่องบินทะเล” ขึ้นใช้เองได้ด้วยการประยุกต์องค์ความรู้ด้านการออกแบบตัวเรือของกรมอู่ทหารเรือ และ กลศาสตร์การบินจนเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างที่เห็น

และด้วยแรงบันดาลใจจากแนวพระราชดำริในการพึ่งพาตนเอง ที่กองทัพเรือได้น้อมนำมาปฏิบัติ สู่ความภาคภูมิใจใน “โครงการวิจัยและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเลขนาด 2-4 ที่นั่ง” ของกองทัพเรือที่ได้รับการอนุมัติดำเนินการด้วยงบประมาณแผ่นดิน ผ่านทางกระทรวงกลาโหม ทำให้ผมนึกถึงคำปรารภของ พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ แว่วเข้ามาในโสตประสาทว่า
“กองทัพเรือมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพ ยุทโธปกรณ์และกำลังรบ ภายใต้แนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการพึ่งพาตนเองให้มากที่สุด โดยเราจะใช้ทรัพยากรทุกชิ้น และงบประมาณที่มาจากภาษีของคนไทยทั้งแผ่นดินอย่างคุ้มค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อกองทัพเรือและประเทศชาติ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ในความเหนื่อยยาก ในอันที่จะทำให้พสกนิกรชาวไทยมีความสุขอย่างยั่งยืน”

“พ่อ ๆ เรือบิน เรือบิน”
“เออๆ เห็นแล้ว...ใจเย็น ๆ ลูก ใจเย็น ๆ ให้พ่อจอดรถก่อน”
เด็กชายวัย 5-6 ขวบ พยายามกุลีกุจอลงจากท้ายมอเตอร์ไซค์ในขณะที่พ่อยังหยั่งขาตั้งรถไม่สนิท ปากก็ตะโกนร้องไป
“เรือบิน ๆ”

เด็กชายตัวเล็กวิ่งลงมายืนข้าง ๆ ผมที่ริมอ่างเก็บน้ำพร้อมกับแหงนหน้ามองดูเครื่องบินที่บินผ่านหน้าไป น่าเสียดายที่เขามาไม่ทันเห็นเครื่องบินในระยะใกล้ตอนจอดส่งผมที่ริมอ่างเก็บน้ำ เครื่องบินกำลังจะลับสายตา เด็กชายตัวเล็กเงยหน้าถามผมด้วยสีหน้าและแววตาระคนผิดหวัง

“เรือบินไปแล้วเหรอ จะมาอีกมั๊ยครับ”

ผมก้มลงส่งยิ้มให้พร้อมกับลูบหัวเด็กน้อยเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร

ชั่วครู่เดียวเหมือนมีอะไรดลใจให้พี่เล็กพาเครื่องบินบินกลับมาที่อ่างเก็บน้ำอีกครั้ง แล้วลดเพดานบินลงต่ำผ่านหน้าเราไปมาในระยะใกล้จนมองเห็นท้องเครื่องบินอย่างชัดเจน “เรือบินชัดๆ” ผมคิดแล้วมองตามเรือบิน บินจากไปจนลับตา ในขณะที่เด็กน้อยก็โบกไม้โบกมือให้กับเรือบินของเขา แล้วยืนดูด้วยรอยยิ้ม พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มที ภารกิจทดลองบินครั้งนี้เสร็จสิ้นลงแล้ว แต่ภารกิจของโครงการฯยังคงเดินหน้าต่อไป ก่อนออกรถผมอดไม่ได้ที่จะยกมือพนมขึ้นเหนือหัวแล้วพูดว่า
“ผมภูมิใจที่ได้เป็นลูกเสด็จเตี่ย และภูมิใจที่ได้เป็นข้าฯรับใช้ในหลวง”


แนวความคิดในการพัฒนาเครื่องบินทะเลเพื่อการใช้ประโยชน์ใช้ในการลาดตระเวนชายฝั่ง การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล และแหล่งน้ำอื่น ๆ อาทิ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ การบินสำรวจ/ ตรวจการณ์ /ถ่ายภาพทางอากาศ เผยแพร่องค์ความรู้ในการสร้างเครื่องบินทะเล และการบินขึ้น-ลงในน้ำ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการและซ่อมบำรุง

ข้อมูลจำเพาะ
  • น้ำมันเชื้อเพลิง เบนซิน 91 
  • Wing span 9.35 m Wing chord 1.34 m 
  • นักบิน 1 คน ผู้โดยสาร 1 คน สัมภาระ 20 กิโลกรัม 
  • น้ำหนักเครื่องบินเปล่า 792 lb 
  • เครื่องยนต์ Rotax 912 UL100 Hp. (ได้รับการรับรองจาก FAA) 
  • สามารถ วิ่งขึ้นร่อนลงทั้งบนบก ในทะเล และแหล่งน้ำพื้นที่จำกัด 
  • ระยะบินไกลสุด 576 Km. 
  • วัสดุ Carbonfibre

ขอขอบคุณ 
กองทัพเรือ, กรมอู่ทหารเรือ, สำนักงานเลขานุการ กองทัพเรือ, สถาบันวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ, คณะกรรมการจัดทำสารคดีสื่อและโทรทัศน์กองทัพเรือ, นาวาเอก กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ (นักบินโครงการวิจัยยานพาหนะใช้ทางทะเลฯ) คณะเจ้าหน้าที่จาก สวพ.ทร.และคณะเจ้าหน้าที่วิจัย รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน

Written by R-Yong

google+

linkedin